วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วันจับใบดำ-ใบแดง ทหารเกณฑ์ ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558

วันนี้ผมไม่ค่อยรีบมาเท่าไหร่เพราะว่าปีที่แล้วเคยมาแล้ว ก็พอรู้บ้างว่าต้องไปนั่งรอตรงไหนยังไงมั่ง เลยมาหลังแปดโมงซะเลย พอไปถึงก็ไปนั่งรอตรงที่เค้าจัดให้สำหรับกลุ่มคนที่ผ่อนผัน เพราะว่าเรื่องผ่อนผันทางมหาวิทยาลัยจะเป็นคนดำเนินการให้ทุกปีจนกว่าเราจะเรียนจบ ก็นั้งรอเค้าเรียกลำดับตามปีเกิดครับ ซึ่งผมเกิดปี 2536 โดนเรียกเกือบกลุ่มสุดท้ายครับ เพราะปี 2558 มีคนที่เกิดปี 2537 เป็นกลุ่มสุดท้าย พอเค้าเรียกไป ก็บอกเจ้าหน้าที่ที่โต๊ะว่าจะผ่อนผัน หรือ จะสละสิทธิ์ผ่อนผันเพื่อจับใบดำใบแดง ซึ่งผมเลือกสละสิทธิ์ครับ เพราะว่าเรียนมหาลัยจบแล้ว กะว่าถ้าโดนใบแดงจะใช้วุฒิป.ตรีขอลดเหลือ 1 ปี ของกลุ่มคนที่ผ่อนผันนี่กว่าจะเรียกครบหมดทุกคนนนี่เกือบบ่ายสองครับ เพราะคนที่มีรายชื่อผ่อนผันเยอะมากๆ ประมาณ 1000 คนได้ ซึ่งมันเยอะกว่าคนที่ต้องไปจับเลยอีก



ในรอบเช้าจะมีคนอีกกลุ่มนึงที่ไม่ได้มีชื่อในคนผ่อนผันนั่งอยู่อีกจุดหนึ่ง อันนี้เขาจะแบ่งให้นั่งตามแขวงแล้วค่อยๆเรียกชื่อทีละแขวง พอเรียกมาเค้าก็จะถามว่าจะสมัครไหม ซึ่งอันนี้ถ้าสมัครเป็นทหารก็เลือกได้เลยว่าอยากเป็นทหารอะไร อยู่จังหวัดไหน ไปผลัดที่ 1 หรือ ผลัด 2 ซึ่งเขตผมก็มีคนสมัครเยอะพอสมควรนะแต่ก็ยังไม่เต็มโควต้าที่เขาเปิดรับ ถ้าคนที่สมัครเลยก็มีเซ็นเอกสาร กับตรวจร่างกายนิดหน่อยๆก็กลับบ้านได้เลย ส่วนคนที่จะจับใบดำใบแดง ก็จะโดนพาไปนั่งรอตรวจร่างกาย กับวัดขนาดตัวต่อไป

ในเขตของผมคนที่สละสิทธิ์ผ่อนผันจะได้ตรวจร่างกาย กับวัดขนาดตัวเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งต่อจากแขวงสุดท้าย ซึ่งกว่าจะตรวจครบทุกคนในวันนั้นก็เกือบๆ 6 โมงเย็น เอาจริงๆคือเห็นเหมือนมีพวกเส้นใหญ่ๆด้วย แบบหุ่นสมส่วนทุกอย่าง แล้วจู่ๆเหมือนมีทหารยศใหญ่เรียกไปคุยอะไรสักอย่างแล้ว พอออกมาก็เหมือนให้คนนั้นสุขภาพไม่ผ่านด้วยแหละ แต่หน้าแม่งโคตรตุ๊ดเลย แล้วก็มีบางพวกที่ตัวดูอ้วนๆทหารจะเรียกไปวัดส่วนสูงกับชั่งน้ำหนัก เพื่อหาค่า BMI ถ้าอ้วนเกินก็จะจับไปอยู่ในดี 1 ประเภท 2 หรือก็คือพวกคนที่ไม่ได้ขนาด โดยกลุ่มนี้ก็จะมีพวกคนที่ตัวเตี้ยเกินไป กับคนที่หน้าอกเล็กเกินไปรวมอยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่คนประเภทนี้ก็คือรอดแล้วล่ะไม่ต้องลุ้นจับใบดำใบแดง เพราะว่าคนที่เป็นดี 1 ประเภท 1 จะเกินจำนวนทุกปีอยู่แล้ว

เมื่อตรวจร่างกายกับวัดขนาดตัวกันครบทุกคนแล้ว คนที่ต้องจับใบดำใบแดงก็จะถูกแบ่งกลุ่มนั่งโดยแบ่งตามแขวง กับกลุ่มที่สละสิทธิ์ผันผ่อน แล้วก็มาจับฉลากกันว่ากลุ่มไหนจะได้จับใบดำ ใบแดงก่อน โดยในวันนั้นกลุ่มที่ผมอยู่คือกลุ่มสละสิทธิ์ผ่อนผันได้จับใบดำใบแดงเป็นกลุ่มสุดท้าย

เมื่อจัดลำดับเสร็จแล้วเค้าก็ให้จัดแถวใหม่ตามลำดับที่จับฉลากได้ว่าใครจับใบดำใบแดงก่อนหลังซึ่งกินเวลาไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อจัดแถว เพราะว่าต้องเรียกทีละกลุ่ม แล้วต้องไปจัดลำดับในกลุ่มอีกทีตามรายชื่อ แล้วทีนี้พอจัดแถวเสร็จแล้ว ก่อนเริ่มจับมีการมาบอกด้วยว่ามีค่ายทหารในกรุงเทพให้เลือก ซึ่งคนที่สมัครไปแล้วตั้งแต่ตอนกลางวันจะไม่ได้เลือกค่ายที่อยู่ในกรุงเทพ ทำให้มีคนเปลี่ยนใจลุกไปสมัครทหารเพิ่มอีกเกือบ 10 คนได้ แล้วทีนี้เค้าก็บอกจำนวนคนที่มาจับ กับจำนวนที่รับซึ่งเขตผมรวมๆแล้วประมาณ 400 กว่าคน เอาอีก 90 กว่าคน โอกาศประมาณ 1 ใน 4 ซึ่งลำดับที่ผมต้องจับเนี่ยอยู่ใน 10 คนสุดท้ายเลย หลังจากนั้นก็เริ่มจับใบดำใบแดง ระหว่างจับเนี่ยก็จะมีการเปิดโถมานับสลากเป็นระยะๆ ว่ายังตรงจำนวนที่ต้องการอยู่จริงไหม
ส่วนใหญ่ในสลากจะมีแต่ ทหารบก ผลัด 2 ละครับเพราะคนสมัครทหารอากาศ กับทหารเรือ หรือไม่ก็เอาผลัด 1 ไปเต็มกันหมด

บรรยากาศจับใบดำใบแดงในวันนั้นมีพระมาจับด้วยรูปนึงจาก 400 กว่าคน ระหว่างจับเนี่ยก็มีเสียงตะโกนดังมากว่า สึกเลยๆ พอจับออกมาพระได้ใบแดงครับ เสียงเฮดังมาก  ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จับมีกองเชียร์มาเยอะมาก บางคนพาแฟนมา บางคนญาติๆมา คนที่จับได้ใบดำก็ดีใจแบบหลุดโลกมากๆ ส่วนคนได้ใบแดงนี่ก็เข่าอ่อนกันแทบจะเป็นลม ส่งผลถึงญาติๆ กับแฟน ที่มาดูในวันนั้นร้องห่มร้องให้กันใหญ่ บางคนมีแฟน(ญ)อัดคลิปอยู่ พอแฟน(ช)จับได้ใบแดงนี่โทรศัพท์ร่วงหลุดมือลงไปนั่งร้องไห้เลย เห็นละสงสารแทนมากๆ

ในวันนั้นเหมือนคนที่อยู่หลังๆจะดวงซวยมากเพราะว่าคนที่อยู่ก่อนหน้าจับได้แต่ใบดำ จากโอกาส 1 ใน 4 ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 1 ใน 3 และแล้วก็มาถึง 10 คนสุดท้ายซึ่งมีผมอยู่ด้วย แล้วก็มีเพื่อนๆที่รู้จักอยู่อีก 2 คน ตอนนั้นเหลือใบแดง 5 ใบ ใบดำ 10 ใบ โอกาส 1 ใน 2 ผมและเพื่อนๆ จับได้ใบแดงกันหมดเลย
ตอนจับได้นี้รู้สึกได้เลยว่าร่างกายหมดเรี่ยวแรงไปเลย พี่ทหารต้องช่วยพยุงแขนพาเดินไปรับใบนัด และก็ยื่นวุฒิป.ตรีเพื่อขอลดเวลาเหลือ 1 ปี โดยเค้าจะยึดเอกสารใบวุฒิป.ตรีของจริงไปเลย แล้วพอถึงวันปลดค่อยมารับคืน แล้วก่อนหน้าวันที่ต้องเข้ากรม จะมีนัดมาเซ็นเอกสารเพื่อรับเงินติดตัวนิดๆหน่อยๆด้วย ประมาณ 150 บาท มาเซ็นที่เขตแป้บเดียวก็กลับบ้านได้เลย

สำหรับเรื่องราวที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ผมเขียนไว้ก่อนที่จะต้องเข้ากรมครับ แล้วกะว่าหลังจากปลดประจำการ หรือในระหว่างที่กลับมาพักที่บ้าน ผมจะพยามยามมาเล่าให้ฟังต่อครับ  ใจจริงผมก็อยากเล่าเรื่องในค่ายให้ละเอียดๆไปเลย ว่าต้องโดนอะไรบ้าง ผมจะพยายามจดออกมาให้เยอะที่สุดครับ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยครับ :) แล้วไว้เจอกันเมื่อชาติไม่ต้องการ แต่ตอนนี้ขอไปรับใช้ชาติก่อนนะครับ 555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

fb comment