วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เรื่องระบบสังคมของทหารเกณฑ์ กับสภาพแวดล้อมในค่ายทหาร ระหว่างทหารเกณฑ์ด้วยกัน

ระบบทหารเนี่ย - เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการทำความเคารพมากๆ ยศน้อยเจอกับคนยศสูงกว่าก็ต้องทำความเคารพ หรือถ้ายศเท่ากันก็ต้องทำความเคารพคนที่มาเป็นก่อน(เหมือนกับรุ่นในมหาลัยนะแหละ) ไม่มีเกี่ยงอายุ ตัวอย่างที่เช่นพลทหารอายุ 26 ต้องทำความเคารพทหารนายสิบยศสิบตรีที่พึ่งจบใหม่อายุแค่ 19 ปลายๆ เพราะนายสิบยศสูงกว่าพลทหาร หรือพลทหารรุ่นปี2557 อายุ21 กับพลทหารรุ่นปี2558 อายุ25 รุ่นปี2558ต้องทำความเคารพรุ่นปี2557 ถ้าเจอกันแล้วทำตัวเฉยๆ อาจจะซวยได้ ดังนั้นใครที่มาเป็นทหารยังยึดติดการทำความเคารพใครต่อใครด้วยอายุ ก็ปล่อยวางซะไม่งั้นอยู่ข้างในนี่จะอึดอัดมากๆ แต่ทีนี้เห็นไหมว่าบางทีอายุมันต่างกันมากๆ
บางคนนี้อายุน้อยแต่วุฒิภาวะอาจจะยังไม่พอ ทำตัวไม่ค่อยน่าเคารพสักเท่าไหร่(เกรียนน) แต่ก็ต้องจำใจนะต้องทำความเคารพคนประเภทนี้ด้วย ถึง แม้ในใจจะไม่ค่อยอยากก็เถอะ เนี่ยแหละอยุ่ข้างในโคตรอึดอัดกับคนประเภทนี้สุดๆ ถ้าไม่เคารพมัน มันก็มาระรานเราอีก อยู่ยากเปล่าๆ ทำๆไปเถอะ อย่าคิดเล็กคิดน้อย พาเครียดเปล่าๆนะ ต่อไปเรื่องสังคมข้างในระหว่างพลทหารกับพลทหารด้วยกัน อันนี้โดยรวมๆ ที่ไปอ่านๆประวัติมา กว่า 60-70% ของพวกพลทหารเนี่ย เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วทั้งนั้น แต่ตอนอยู่ข้างในนี่มีแอบเสพป่าวก็ไม่รู้สินะ(เสียงสูง) ของแต่ละอยากก็พยายามสรรหามาเสพกันจนได้ ก็ตามสไตล์เด็กต่างจังหวัดอะนะ ส่วนใหญ่จบแค่ม.3 ม.6 กัน แล้วก็บุหรี่นี่สูบกันจัดมากๆ แต่ละคน วันนึงเฉลี่ยๆ คนละ 2/3ซองได้ ต้นเดือนตังเยอะสูบบุหรี่ กลางๆเดือนตังเริ่มหมดก็สูบยาเส้นกัน แทบจะรมควันอะ ไอคนไม่สูบก็มะเร็งแดกกันไป สูบมันทุกที่ทุกเวลา บนเตียงนอน หน้าคอม กลางแถว หน้าแถว นั่งขี้ อาบน้ำ ฯลฯ ระหว่างพลทหาร ที่เจอก็จะแบ่งประเภทตามปีที่ต้องเป็น 6เดือน 1ปี 2ปี นิสัย หรือ lifestyle อาจจะไม่ค่อยเหมือนกัน

-พวก6เดือน พวกนี้คือพวกจบ ป.ตรี ปวส. แล้วก็สมัครมา พวกนี้เหมือนจะสบายเพราะมีการศึกษาอาจจะได้ทำงานในออฟฟิศ แต่ในสายตาของกองทัพบกไม่ใช่อย่างนั้น!! พวกนี้เหมือนเป็นส่วนเกิน เพราะกว่าจะฝึกเสร็จ 2เดือนกว่า ลากลับบ้านหลังฝึกเสร็จอีก กลับมาอีกทีเหลือเวลาใช้งานได้แค่ 3เดือน แทบจะทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยก็ต้องไปละ เข้ามาก็เป็นทหารรุ่นน้อง โดนใช้งานสารพัดมากๆ งานที่ต้องเจอส่วนใหญ่ก็พวกงานช่าง งานกรรมกร เรียกว่าเป็นแค่ 6 เดือน แต่โดนใช้งานจนคุ้ม เผลอๆอาจจะได้ลาแค่ครั้งเดียวด้วย เพราะเป็นแค่ 6 เดือน

 -พวก1ปี พวกนี้คือพวก ป.ตรี ปวส. โดนใบแดง กับ ปวช. ม.6 สมัครมา กลุ่มนี้ถ้ามีความสามารถด้านเอกสารก็ได้ทำงานออฟฟิศนะ เพราะหลังฝึกเสร็จต้องอยู่อีก 9 เดือน ยังพอทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้บ้าง ลักษณะนิสัยก็ไม่ค่อยอะไรมาก อยู่ชิวๆ ให้ครบปี ไม่ค่อยอะไรกับใครเท่าไหร่ ในส่วนนี้พวกจบคอม หรือทำคอม ก็อย่างที่บอก "สบายๆ" เวลาเขาหาคนเป็นคอมก็รีบออกตัวเลย ส่วนพวกจบสาขาอื่น อย่างพวกวิศวะ อย่าเ*ือกบอกว่าเป็นวิศวะ ช่างไฟ โยธา อะไรเชียว ในกองทัพบกเขาก็มองพวกเมิงเปน กรรมกร อยู่ดี เอาไปใช้งานกรรมกร งานช่าง ต่างๆ วางระบบไฟหน่วยงาน สร้างอาคารใหม่ ผสมปูน ปูหญ้า ฯลฯ หรือถ้าชอบก็ไม่เป็นไร แต่ก่อนจบน่าจะได้ทำโปรเจคจบกันทุกคนสำหรับพวกจบป.ตรี งานเอกสารน่าจะคล่อง ถ้าไม่อยากเหนื่อย อยากอยู่ใกล้ชิดพวกนายๆ ก็มาทำพวกเกี่ยวกับเอกสารดีกว่า 

-พวก2ปี พวกนี้คือพวกที่จบต่ำกว่า ม.6 หรือ ปวช. ลงไปแล้วโดนใบแดง เป็น2ปีหมด พวกนี้คือแรงงานชั้นดีของกองทัพบก เวลาเขาให้เลือกหน่วยที่ไปประจำ เขาจะให้สิทธิ์พวกนี้เลือกก่อน แต่ก็อย่างว่า น้อยคนที่จะทำพวกเอกสารเป็นแต่ก็พอมีบ้าง หรือบางคนที่ลายมือสวยๆ ก็ได้ไปทำงานเอกสารเหมือนกัน ส่วนใหญ่พวกนี้เลยเอาไปใช้แรงงานมากกว่า แล้วพวกนี้เป็น 2 ปี อยู่ค่ายทหารเหมือนบ้าน พอขึ้นเป็นทหารรุ่นพี่ แล้วก็อาจจะมีเบ่งๆ พยายามเป็นใหญ่ในหน่วยนั้น วางอำนาจกับรุ่นน้องหรือ บางคนโหดๆก็ทำตัวเป็นมาเฟียเลย กดขี่รุ่นน้องทุกอย่าง ตัวเองไม่ทำไรเลย ตอนเช้าต้องตื่นมาทำความสะอาด พวกรุ่นพี่ตื่นมาก็หลับต่อ ปล่อยให้รุ่นน้องทำ พอทำไม่สะอาดโดนซ่อมกันหมด รุ่นพี่ก็มาโทษรุ่นน้องต่อ เวรตอนกลางคืนก็ไม่ต้องเข้า ให้รุ่นน้องเข้าแทนหมด ถ้ารุ่นน้องไม่อาสาเข้าแทน หรือเรื่องลาก็ต้องได้ลาก่อนรุ่นน้อง ถ้าเวลาจัดลาแล้วรุ่นน้องได้ลาก่อนก็อาจจะมีไม่พอใจ ถ้ารุ่นน้องคนไหนแข็งข้อมากๆ ก็อาจจะมีปัญหากับรุ่นพี่ได้ แล้วทีนี้จะอยู่ยากละ หนักๆเข้าก็อาจจะมีลากไปทำอะไรสักอย่างเป็นรายๆตัวไปเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

fb comment